ประเภทของโรงแรมมีเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งดังนี้
1.
แบ่งตามทำเลที่ตั้ง
2.
แบ่งตามหน้าที่
3.
แบ่งตามจำนวนห้องพัก
4.
แบ่งตามราคาค่าห้อง
5.
แบ่งตามระยะเวลาที่ลุกค้ามาพัก
โรงแรมที่แบ่งตามทำเลที่ตั้ง
(
Location )
โรงแรมในเมืองใหญ่
(
Large Cities ) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจ
การ
ท่องเที่ยว
ตลอดจนสถานบันเทิงต่าง ๆ
ลักษณะของโรงแรมมักมีขนาดใหญ่ตั้งแต่
100
ห้องตกแต่งหรูหรามีบริการอื่น
ๆ ครบครัน
โรงแรมในเมืองเล็ก
(
Small Cities ) มักตั้งอยู่ในเมืองเล็ก
ลูกค้าส่วนใหญ่คือ
นักธุรกิจ
นักท่องเที่ยว นักเดินทาง
และลูกค้าในทอ้งถิ่นที่มาสังสรรค์
โรงแรมชานเมือง
(
Saburban Hotel ) ตั้งอยู่ชานเมืองหรือนอกเมือง
มีการ
คมนาคมสะดวก
บรรยากาศเงียบสงบ มีอากาศบริสุทธิ์
โรงแรมสถานตากอากาศ
(
Resort Hotel ) จะแบ่งเป็น
2
ประเภท
คือ
·
โรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว
เช่น ภูเขา ทะเล ทะเลสาบ ฯลฯ
· โรงแรมที่ไม่มีธรรมชาติดึงดูดนกท่องเที่ยว
เป็นโรงแรมที่มุ่งเน้นด้านกิจกรรม
นันทนากาต่าง
ๆ เช่น สนามกอล์ฟ ขี่ม้า ฯลฯ
โรงแรมท่าอากาศยาน
(
Airport Hotel ) ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่สนามบิน
ทั้งนี้
เพราะสนามบินส่วนใหญ่ตั้งอยู่ไกลเมือง
โรงแรมที่แบ่งตามหน้าที่
โรงแรมเพื่อการค้าหรือการพาณิชย์
(
Commercial Hotel ) มุ่งเน้นบริการนักธุรกิจ
พ่อค้าที่มาติดต่อธุรกิจ
โรงแรมเพื่อการพักผ่อน
(
Resort Hotel ) มักตั้งอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม
มีบริการด้านต่าง ๆ ครบครัน
โรงแรมเพื่อการประชุม
(
Convention Hotel )
โรงแรมที่มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อจัดเป็นที่ประชุมสัมมนา
หรืออบรมอื่นๆ โดยจัดห้องไว้ให้บริการ
โรงแรมเพื่อการพักอาศัย
(
Residential Hotel ) เป็นลักษณะให้เาห้องพักถาวรในรูปของห้องชุด
โรงแรมเพื่อให้บริการแกกก่นักท่งอเที่ยวโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ
(
Motel ) มักตั้งอยู่ตามถนนสายสำคัญๆมีที่จอดรถติดกับห้องพัก
โรงแรมที่แบ้งตามจำนวนห้องพัก
โรงแรมขนาดเล็ก
คือ โรงแรมที่มีห้องพักเดี่ยวต่ำกว่า
30
ห้อง
โรงแรมขนาดกลาง
คือ โรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า
30
ห้องไม่เกิน
100
ห้อง
โรงแรมขนาดใหญ่
คือ โรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า
100
ห้อง
ตกแต่งหรูหรา มีบริการครบครัน
4.
โรงแรมที่แบ่งตามราคาค่าเช้าห้องพัก
ระดับ
/
กลุ่ม
|
ราคาห้องพักเดี่ยวต่อวัน
|
||
เกณฑ์สมาคม
|
เกณฑ์
ท.ท.ท.
|
เกณฑ์ในแผน
ฯ
|
|
1
|
300
|
200
|
400
|
2
|
300 –
600
|
200 –
400
|
400 –
700
|
3
|
600 –
900
|
400 –
700
|
700 –
1,000
|
4
|
900
ขึ้นไป
|
700 –
1,000
|
1,000
ขึ้นไป
|
5
|
1,000
ขึ้นไป
|
5.โรมแรมที่แบ่งตามระยะเวลาที่ลูกค้ามาพัก
1). โรงแรมสำหรับพักชั่วคราว ( Transient Hotel ) คือโรงแรมที่ลูกค้ามาพักเป็นระยะเวลาสั้น ๆ
โรงแรมสำหรับพักประจำ
(
Residential Hotel ) คือโรงแรมประเภทให้ลูกค้าเช่าพัก
เป็นเวลาอย่างน้อย
1
เดือน
โดยคิดค่าเช่าเป็นรายเดือน
หรือห้องพักจะเป็นประเภทห้องชุด
ระดับมาตราฐานของโรงแรม
สมาคมยานยนต์ในประเทสอังกฤษ
หรือ Automobile
Association ( AA ) และ
ราชยาน
ยนต์สโมสร หรือ Royal
Automobile Club ( RAC )
จัดกลุ่มระดับของโรงแรมแล้วยังนับเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของโรงแรมใน
แต่ละกลุ่มด้วย
การจัดกลุ่มโดยวิธีให้ดาวมีดังนี้
กลุ่มดาวเดียว หมายถึง โรงแรมที่มีขนาดเล็ก สิ่งอำนวยความสะดวกและเฟอร์นิเจอร์และ
พอใช้
มีห้องน้ำ ห้องส้วมเพียงพอในลักษณะของการใช้ร่วมกัน
มีบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มาพักเท่านั้น
บรรยากาศเป็นกันเอง
กลุ่มสองดาว
หมาย ถึง
โรงแรมที่ตกแต่งไว้อย่างดีมีระดับห้องพักสูงกว่าระดับดาวเดียว
ห้องพักกว้างขึ้น มีห้องน้ำในตัว
อาหารมีครบครันขึ้น
ไม่บริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบุคคลภายนอก
กลุ่มสามดาว
หมาย ถึง
โรงแรมที่ตกแต่งไว้อย่างดี
ห้องพักกว้างขึ้น
มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง
ๆ มากขึ้น มีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ
มีบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบุคคลภายนอก
กลุ่มสี่ดาว
หมายถึง
โรงแรมขนาดใหญ่ ตกแต่งดีเป็นพิเศษ
มาตราฐานสูงในด้านบริการและความสะดวกสบาย
มีห้องอาหารมากกว่า 1
ห้อง
กลุ่มห้าดาว
หมาย
ถึง โรงแรมขนาดใหญ่ประเภทหรู
มีมาตราฐานสากลระดับสูงในทุก
ๆ ด้าน คือทั้งด้านห้องพัก
ห้องอาหาร การบริการ
และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น