วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

แนวคิดที่3 เกียวกับการจัดแบ่งประเภทโรงแรม


ประเภทของโรงแรม

การแบ่งประเภทของโรงแรมสามารถแบ่งได้หลากหลายรูปแบบ แต่ต่อไปนี้จะแบ่งตามจุดประสงค์ของโรงแรม

 โรงแรมธุรกิจ

โรงแรมประเภทนี้มักจะตั้งอยู่กลางใจเมือง ในเขตธุรกิจ มีจุดประสงค์ให้บริการนักธุรกิจเป็นหลัก และนอกจากนั้นมักจะนิยมใช้เป็นที่จัดงานประชุม หรือ งานเลี้ยง จะมีการบริการที่หรูหรา แต่ช่วงเวลาที่แขกจะเข้าพักมักจะสั้นๆ

โรงแรมท่าอากาศยาน

โรงแรมประเภทนี้จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับสนามบิน แขกที่เข้าพักจะเป็นพวกนักทัศนาจรที่มารอต่อเครื่องบิน การเข้าพักมักจะเป็นช่วงสั้นๆ ไม่ค้างคืนเกิน 1 วัน หรือในบางกรณีก็จะเป็นนักธุรกิจที่มาเข้าพักแบบโรงแรมธุรกิจก็เป็นได้

โรงแรมพักอาศัย

โรงแรมประเภทนี้ มักจะเป็นโรงแรมที่เปิดให้เข้าพักเป็นระยะเวลานานๆ 1 เดือนขึ้นไป มีลักษณะคล้ายคอนโดมิเนียมที่มีบริการแบบโรงแรม เพียงแต่ความหรูหราอาจไม่เทียบเท่า

โรงแรมเพื่อการพักผ่อน (รีสอร์ต)

โรงแรมประเภทนี้มักจะตั้งอยู่ต่างจังหวัด ในภูมิประเทศที่ดี ห้องพักมักจะแยกเป็นส่วนๆ เป็นบ้านหรือหลังคาเรือนแยกต่างหาก ในโรงแรมจะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย เช่น การปั่นจักรยาน เล่นกอล์ฟ ขี่ม้า เดินป่า สปา เพราะจุดประสงค์ของแขกที่เข้าพักโรงแรมประเภทนี้คือการพักผ่อนเป็นหลัก ระยะเวลาเข้าพักจึงมีระยะเวลาในช่วง 5-7 วัน การบริการจะเป็นแบบสบายๆ เป็นกันเอง

 โรงแรมคาสิโน

โรงแรม เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ในลาส เวกัส
โรงแรมประเภทนี้จะมีบริการที่หรูหรามาก ห้องพักสวยงาม มีราคาแพง แขกที่เข้าพักจะเข้ามาเล่นการพนันเป็นส่วนใหญ่ โรงแรมประเภทนี้จะดึงดูดลูกค้าด้วยการพนัน ความบันเทิง โรงแรมชนิดนี้ไม่มีในประเทศไทยเนื่องด้วยกฎหมายการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่แม่แบบที่ชัดเจนคือลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

โรงแรมประเภทที่พักและอาหาร (เกสต์เฮาส์)

โรงแรมชนิดนี้จะเป็นโรงแรมที่มีเพียงห้องพักและอาหารเช้าเท่านั้น ไม่มีการบริการอะไรมากนัก เหมาะกับนักเดินทางที่มีงบที่จำกัด ราคาห้องพักย่อมเยา แขกส่วนหนึ่งก็ชอบเพราะมีความเป็นกันเองดี

โรงแรมบังกะโล

โรงแรมชนิดนี้จะมีเพียงที่พักให้เช่าในราคาประหยัดมาก แต่ไม่มีอาหารบริการให้ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมมาเอง ในบางโรงแรมประเภทนี้จะมีพื้นที่เตรียมให้ทำอาหารไว้ให้

 โมเทล

โมเทลเกิด ขึ้นในประเทศอเมริกา ซึ่งนักเดินทางที่ต้องขับรถระยะไกลๆ แล้วต้องการที่พักที่สามารถเอารถไปจอดได้ที่ห้องพักของตน แขกที่เข้าพักจะพักระยะเวลาสั้นๆ เพียงข้ามคืน ส่วนใหญ่มักอยู่ริมทางหลวง

 สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม

  • ห้องโถงส่วนกลาง Hotel Lobby
  • สถานที่ออกกำลังกาย Fitness Center, Gymnasium
  • สปาเพื่อสุขภาพ Spa and Massage
  • ภัตตาคารพิเศษ (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ฝรั่งเศส อิตาเลียน อินเดีย มุสลิม ฯลฯ)
  • คอฟฟี่ชอป Coffee Shop
  • ดิสโก้เธค Discotheque Bar
  • ห้องคาราโอเกะ Karaoke
  • บริการอินเทอร์เน็ต Internet access in room
  • ห้องสำหรับเด็กๆ เล่นแกมส์ Children Play Room
  • ร้านเสริมสวย Beauty Salon
  • ร้านจำหน่ายของฝาก Gift Shop
  • บริการรับซักรีดเสื้อผ้า Laundry Service
  • บริการรับเลี้ยงเด็กเล็ก Baby sitting
  • รถรับส่ง บริการท่องเที่ยว Shuttle Bus Service
  • บริการอาหารในห้องพัก Room Service
  • บริการสำหรับนักธุรกิจ Bussiness Center
  • บริการขัดรองเท้า และบริการหนังสือพิมพ์รายวัน News paper and shoesshine
  • พนักงานบริการทั่วไปประจำชั้นที่พัก Butler Service
  • เค้าเตอร์บริการท่องเที่ยว Counter Signseeing Service or Tour Desk.
  • ที่รับแลกเงินตราต่างประเทศ Currency Exchange
ทั้งนี้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แนวคิดที่2 เกียวกับการจัดแบ่งประเภทโรงแรม


ประเภทของโรงแรมมีเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งดังนี้
1.       แบ่งตามทำเลที่ตั้ง
2.       แบ่งตามหน้าที่
3.       แบ่งตามจำนวนห้องพัก
4.       แบ่งตามราคาค่าห้อง
5.       แบ่งตามระยะเวลาที่ลุกค้ามาพัก




โรงแรมที่แบ่งตามทำเลที่ตั้ง ( Location )
โรงแรมในเมืองใหญ่ ( Large Cities ) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจ การ
ท่องเที่ยว ตลอดจนสถานบันเทิงต่าง ๆ ลักษณะของโรงแรมมักมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 100 ห้องตกแต่งหรูหรามีบริการอื่น ๆ ครบครัน
โรงแรมในเมืองเล็ก ( Small Cities ) มักตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ลูกค้าส่วนใหญ่คือ
นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว นักเดินทาง และลูกค้าในทอ้งถิ่นที่มาสังสรรค์
โรงแรมชานเมือง ( Saburban Hotel ) ตั้งอยู่ชานเมืองหรือนอกเมือง มีการ
คมนาคมสะดวก บรรยากาศเงียบสงบ มีอากาศบริสุทธิ์
โรงแรมสถานตากอากาศ ( Resort Hotel ) จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
·     โรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเขา ทะเล ทะเลสาบ ฯลฯ
·       โรงแรมที่ไม่มีธรรมชาติดึงดูดนกท่องเที่ยว เป็นโรงแรมที่มุ่งเน้นด้านกิจกรรม
นันทนากาต่าง ๆ เช่น สนามกอล์ฟ ขี่ม้า ฯลฯ
โรงแรมท่าอากาศยาน (  Airport Hotel ) ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่สนามบิน ทั้งนี้
เพราะสนามบินส่วนใหญ่ตั้งอยู่ไกลเมือง
โรงแรมที่แบ่งตามหน้าที่
โรงแรมเพื่อการค้าหรือการพาณิชย์ ( Commercial Hotel ) มุ่งเน้นบริการนักธุรกิจ พ่อค้าที่มาติดต่อธุรกิจ
โรงแรมเพื่อการพักผ่อน ( Resort Hotel ) มักตั้งอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีบริการด้านต่าง ๆ ครบครัน
โรงแรมเพื่อการประชุม (  Convention Hotel )  โรงแรมที่มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อจัดเป็นที่ประชุมสัมมนา หรืออบรมอื่นๆ โดยจัดห้องไว้ให้บริการ
โรงแรมเพื่อการพักอาศัย ( Residential Hotel ) เป็นลักษณะให้เาห้องพักถาวรในรูปของห้องชุด
โรงแรมเพื่อให้บริการแกกก่นักท่งอเที่ยวโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ( Motel ) มักตั้งอยู่ตามถนนสายสำคัญๆมีที่จอดรถติดกับห้องพัก
โรงแรมที่แบ้งตามจำนวนห้องพัก
โรงแรมขนาดเล็ก คือ โรงแรมที่มีห้องพักเดี่ยวต่ำกว่า 30 ห้อง
โรงแรมขนาดกลาง คือ โรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า 30 ห้องไม่เกิน 100 ห้อง
โรงแรมขนาดใหญ่ คือ โรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า 100 ห้อง ตกแต่งหรูหรา มีบริการครบครัน
4.     โรงแรมที่แบ่งตามราคาค่าเช้าห้องพัก
ระดับ /
กลุ่ม
ราคาห้องพักเดี่ยวต่อวัน
เกณฑ์สมาคม
เกณฑ์ ท...
เกณฑ์ในแผน ฯ
1
300
200
400
2
300 600
200 400
400 700
3
600 900
400 700
700 1,000
4
900 ขึ้นไป
700 1,000
1,000 ขึ้นไป
5
 
1,000 ขึ้นไป
 
                                                หมายเหตุ : หน่วยเป็นบาท
5.โรมแรมที่แบ่งตามระยะเวลาที่ลูกค้ามาพัก
                1). โรงแรมสำหรับพักชั่วคราว (  Transient Hotel ) คือโรงแรมที่ลูกค้ามาพักเป็นระยะเวลาสั้น ๆ
โรงแรมสำหรับพักประจำ ( Residential Hotel ) คือโรงแรมประเภทให้ลูกค้าเช่าพัก
เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน โดยคิดค่าเช่าเป็นรายเดือน หรือห้องพักจะเป็นประเภทห้องชุด


ระดับมาตราฐานของโรงแรม
                สมาคมยานยนต์ในประเทสอังกฤษ หรือ Automobile Association ( AA ) และ
ราชยาน ยนต์สโมสร หรือ Royal Automobile Club ( RAC ) จัดกลุ่มระดับของโรงแรมแล้วยังนับเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของโรงแรมใน แต่ละกลุ่มด้วย
การจัดกลุ่มโดยวิธีให้ดาวมีดังนี้

กลุ่มดาวเดียว      หมายถึง โรงแรมที่มีขนาดเล็ก สิ่งอำนวยความสะดวกและเฟอร์นิเจอร์และ
พอใช้ มีห้องน้ำ ห้องส้วมเพียงพอในลักษณะของการใช้ร่วมกัน มีบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มาพักเท่านั้น บรรยากาศเป็นกันเอง
กลุ่มสองดาว        หมาย ถึง โรงแรมที่ตกแต่งไว้อย่างดีมีระดับห้องพักสูงกว่าระดับดาวเดียว ห้องพักกว้างขึ้น มีห้องน้ำในตัว อาหารมีครบครันขึ้น ไม่บริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบุคคลภายนอก
กลุ่มสามดาว        หมาย ถึง โรงแรมที่ตกแต่งไว้อย่างดี ห้องพักกว้างขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากขึ้น มีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ มีบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบุคคลภายนอก
กลุ่มสี่ดาว             หมายถึง โรงแรมขนาดใหญ่ ตกแต่งดีเป็นพิเศษ มาตราฐานสูงในด้านบริการและความสะดวกสบาย มีห้องอาหารมากกว่า 1 ห้อง
กลุ่มห้าดาว          หมาย ถึง โรงแรมขนาดใหญ่ประเภทหรู มีมาตราฐานสากลระดับสูงในทุก ๆ ด้าน คือทั้งด้านห้องพัก ห้องอาหาร การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

แนวคิด เกียวกับการจัดแบ่งประเภทโรงแรม 1


ธุรกิจที่พักแรม
(Accommodation)  มีหลายประเภท  เช่น  โรงแรม  (hotel),  โมเต็ล  (motel),  เกสต์เฮาส์  (guesthouse),  รีสอร์ท  (resort),  อพาร์ทเม้นท์  (apartment),  แมนชั่น  (mansion),  คอนโดมิเนียม  (condominium),  ที่ตั้งแคมป์  (camp  ground),  บ้านพักรับรองของกรมป่าไม้,  บ้านพักตากอากาศ,  บังกะโล  (bungalow),  แพ  ฯลฯ  สถานที่พักจะต้องสะอาด  สะดวกสบาย  ปลอดภัย  และมีราคาที่เหมาะสมกับสภาพที่พักแต่ละประเภท
ตัวอย่างที่พักแรมที่สำคัญที่ควรกล่าวถึง  มีดังนี้
  1. โรงแรม  (hotel)  หมายถึง  สถานที่สำหรับนักเดินทาง  หรือนักท่องเที่ยวที่มาพัก  และมีบริการหลายรูปแบบแก่ผู้มาพัก  ขึ้นอยู่กับระดับของการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก  เช่น  อาหารและเครื่องดื่ม  จัดประชุม  จัดเลี้ยง  สระว่ายน้ำ  ออกกำลังกาย  เล่นกีฬา  นำเที่ยว  และจำหน่ายของที่ระลึก  เป็นต้น
      ประเภทของโรงแรม  การจำแนกประเภทของโรงแรมอาจจะกระทำได้หลายวิธี  โดยพิจารณาจากเกณฑ์ที่แตกต่างกัน  เช่น  การจำแนกตามระดับ  หรือเกรด  แม้ว่าธุรกิจโรงแรมจะแพร่หลายทั่วโลก  แต่อาจกล่าวได้ว่ายังไม่มีการจัดระดับโรงแรมที่เป็นมาตรฐานสากลทั่วโลก  แต่ละประทศมีข้อกำหนดของตนเองโดยหลักการพิจารณาจากรูปแบบของโรงแรม  ความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวก  และคุณภาพของการบริการ  เช่น  ประเทศฝรั่งเศสจัดแบ่ง
     โรงแรมเป็นระดับมาตรฐานโดยแสดงระดับด้วยจำนวนดาว  (star)  ซึ่งประกอบด้วย 5 ระดับ  ดังนี้
         1).  โรงแรม 5 ดาว  หรือเดอลุกซ์  (five-star/ deluxe hotel)  เป็นลักษณะโรงแรมที่ให้บริการสมบูรณ์แบบ  และมีราคาสูง  โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  เช่น  ห้องพักมีอ่างอาบน้ำส่วนตัว  มีภัตตาคารระดับสูง  สระว่ายน้ำ  สถานที่ออกกำลังกาย  และบริการที่ยอดเยี่ยม
         2).  โรงแรม 4 ดาว  หรือระดับหนึ่ง  (four-star/ first class hotel)  เป็นโรงแรมที่ให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสูงกว่ามาตรฐาน  เช่น  ห้องพักส่วนใหญ่มีอ่างอาบน้ำ  มีภัตตาคาร  และคอกเทลเลาจ์ไว้บริการ
        3).  โรงแรม 3 ดาว  (three-star  hotel)  เป็นโรงแรมในระดับมาตรฐานเน้นความสะดวกสบาย/ โดยปกติมีบริการอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม
         4).  โรงแรม 2 ดาว  (two-star  hotel)  เป็นโรงแรมเพื่อการพาณิชย์  หรือนักท่องเที่ยวแบบประหยัด  มีลิฟท์อำนวยความสะดวกในการขึ้นลงระหว่างชั้น  ห้องพักบางห้องมีห้องอาบน้ำแบบฝักบัว  และอาจมีบริการอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม  แต่ผู้พักต้องเสียค่าบริการเพิ่ม  
         5).  โรงแรม 1 ดาว  เป็นโรงแรมให้บริการห้องพักแบบประหยัด  ไม่มีลิฟท์บริการระหว่างชั้น  ไม่มีห้องน้ำหรือห้องอาบน้ำในห้องพัก  และไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในโรงแรม
อย่างไรก็ตามการจัดระดับด้วยระบบดาว  มีข้อจำกัดอยู่ที่การไม่สามารถวัดคุณภาพที่แท้จริงของการให้บริการได้  ในหลายประเทศ  เช่น  อังกฤษ  ออสเตรเลีย  หรือนิวซีแลนด์  จึงมีการนำระบบประกันคุณภาพมาใช้ประกอบกับการจัดระดับระบบดาว

2.  โมเต็ล  (motel)  เป็นที่พักแรมขนาดเล็กประมาณ 50 ห้อง  มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ถนนหลวงสายหลักระหว่างเมือง  และมีบริการที่จอดรถฟรีแก่แขกผู้มาพัก  แต่มักไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม  เป็นบริการที่พักแบบประหยัดสำหรับนักเดินทาง  หรือนักท่องเที่ยวที่นิยมมากในสหรัฐอเมริกา


3.  เกสต์เฮาส์  (guesthouse)  เป็นที่พักที่เจ้าของบ้านแบ่งให้ห้องให้นักท่องเที่ยวเช่าพัก  จัดเป็นที่พักขนาดเล็ก  ราคาถูก  ในประเทศไทยเกสต์เฮ้าส์  หรือที่บางคนเรียกว่า  เรือนแรม  ตั้งอยู่ในย่านชุมชนหรือเมืองท่องเที่ยว  เช่น  บริเวณถนนข้าวสารในกรุงเทพฯ  บริการจะมีเพียงห้องเล็กๆ  และห้องน้ำรวม  เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ออกท่องเที่ยวในเวลากลางวัน  และเพียงต้องการที่พักหลับนอนในเวลากลางคืนเท่านั้น  ปัจจุบันเกสต์เฮ้าส์ได้รับการพัฒนามากขึ้น  โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักเพิ่มขึ้น  เช่น  โทรทัศน์  รวมทั้งมีบริการอาหารเครื่องดื่ม


รวบรวมจาก
http://elearning.spu.ac.th/allcontent/svi314/class4p3.htm[ 2 มกราคม 2550 ]